ย้อนไปในสมัยยุค 90 นับว่าเป็นยุคที่ถือกำเนิดโคตรแข้งของโลกมากมาย ทุกที่ทั่วทุกมุมโลกต้องมียอดนักเตะโผล่ขึ้นมา หากพูดในอเมริกาใต้ ทุกคนยกให้ โรนัลโด้ ฝั่งของเอเชีย ทุกคนรู้จัก นากาตะ ทว่าหากพูดถึงยุโรป หลายคนกล่าวถึง ซีดาน
แม้จะเป็นนักเตะในตำแหน่งกองกลาง แต่ความโดดเด่นของเขาไม่แพ้ดาวยิงชื่อก้องโลก เพราะในแต่ละครั้งที่ฟุตบอลอยู่ในการครอบครองของแข้งรายนี้ ทุกสายตาทั่วทั้งสนามต่างจับจ้องว่า ซีดาน จะโชว์อะไรให้พวกเราได้ชม และนี่คือเรื่องราวของอัจฉริยะลูกหนัง ซีเนดีน ซีดาน
ผู้อพยพในเมืองน้ำหอม
ซีเนดีน ซีดาน เกิดวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1972 ในเมืองมาร์กเซย ประเทศฝรั่งเศส ทว่าแท้จริงแล้วคุณพ่อของเขา สมาอิล ซีดาน และคุณแม่ มาริก้า ซีดาน เป็นชาวแอลจีเรียที่อพยพมาอยู่ในทวีปยุโรป และปักหลักที่ดินแดนน้ำหอม
ซีเนดีน ซีดาน มีชื่อเล่นว่า ซิซู เป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน โดยตัวเขามีพี่ชาย 3 คน และพี่สาว 1 คน ทั้งนี้ครอบครัวซีดาน ถือว่าเป็นครอบครัวใหญ่ ถึงอย่างไรในช่วงแรกที่ ซิซู ลืมตาดูโลกฐานะทางบ้านยังไม่ดีมากนัก ทำให้การเป็นอยู่ในช่วงนั้น ทั้ง 7 คน ต้องอาศัยในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ
ฟุตบอลเปลี่ยนชีวิต
เช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆในละแวกใกล้เคียง ซีดาน ชอบที่จะออกมาเตะฟุตบอลเล่นกับเพื่อนๆ โดยไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งสิ่งที่เขาทำอยู่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต จากห้องเช่าแคบ ๆ กลายเป็นบ้านหลักใหญ่โต และมีเงินทอง ชื่อเสียงมากมาย
จากที่เราเคยได้ยินมา นักเตะที่เล่นฟุตบอลตามข้างถนน มักจะโดนแมวมองดึงตัวไปร่วมทีมเยาวชนของแต่ละสโมสรในวัยไม่ถึง 10 ขวบ แต่สำหรับ ซีดาน กว่าโอกาสนั้นจะมาถึงเขาอายุเกือบจะ 15 ปีแล้ว
เริ่มจากข้างถนน
ในตอนที่ ซีดาน อายุ 14 ปี เขายังคงเล่นฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ตามปกติ แต่สิ่งที่พิเศษคือมีแมวมองจากสโมสรกานส์ เห็นแววในตัวของเด็กน้อยรายนี้ ก่อนจะทาบทามให้ไปเป็นแข้งเยาวชนของทีมในเวลาต่อมา และนั่นคือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
3 ปีแห่งการรอคอย
ชีวิตกับสโมสรแรก ดูเหมือนจะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากนัก เมื่อ ซีดาน ปรับตัวจากการเป็นนักเตะธรรมดา มาเป็นแข้งอาชีพ เขาพัฒนาแบบก้าวกระโดด ความพยายามได้ตอบแทนตัวเขาเมื่อทะยานขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ของสโมสรกานส์ ด้วยวัย 17 ปี ในตอนนั้นทีมอยู่ในลีกสูงสุด ก่อนที่จะตกชั้นไปเล่นในลีกรอง
ย้ายไปสู่ทีมที่ใหญ่กว่า
แม้ต้นสังกัดจะร่วงตกชั้น แต่ด้วยฝีเท้าของ ซีดาน ไม่เหมาะกับการไปเล่นที่ลีก เดอซ์ เมื่อ บอร์กโดซ์ ทีมดังลีกแดนน้ำหอม คว้าตัวไปร่วมทัพ และวางให้แข้งดาวรุ่งผู้นี้เป็นจอมทัพตัวหลักทันที โดยผลงานในฤดูกาลแรก ก็นับว่าสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แฟนบอลได้ไม่น้อย
เมื่อเขากลายเป็นหนึ่งในชุดคว้ารองแชมป์ ยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 1995/1996 ทว่าในฤดูกาลดังกล่าว ซีดาน ได้บรรเลงเพลงแข้งแบบที่มนุษย์น้อยคนนักจะทำได้ กับการเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ แต่มีลีลาการกระชากลากเลื้อยที่สวยงาม แถมการสร้างสรรค์เกมเป็นเลิศสุด ๆ โดยเฉพาะเกมรอบชิง ที่พบกับ บาเยิร์น มิวนิค
จุดพีคในอาชีพลูกหนัง
แม้จะเป็นนักเตะที่ถูกยกย่องว่ามีความสามารถรอบด้าน เป็นกองกลางที่แทบจะไม่มีจุดอ่อน ทั้งการครองบอล การจ่ายบอล รูปร่างที่สูงใหญ่ แต่หากเล่นแค่ในลีกบ้านเกิด ดูเหมือน ซีดาน จะไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดนักเตะสักที
และเป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือการได้ไปเล่นในถ้วยสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อย่าง ยูฟ่า แชมเปี่ยนส์ ลีก และที่สูงไปกว่านั้นคือการได้บัลลงดอร์ สักครั้ง ส่วนกับทีมชาติฝรั่งเศส แน่นอนว่า ซีดาน มีโอกาสติดทีมชุดใหญ่ และหากอยากการันตีตัวจริงเขาต้องก้าวออกจากลีกเอิง
ยูเวนตุส
ระดับของ ซีดาน ก้าวขึ้นไปทีละขั้น เริ่มจากนักเตะข้างถนน สู่แข้งลีกเอิงฝรั่งเศส แต่ในตอนนี้เขาอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของการค้าแข้ง เพราะในปี 1996 ทีมม้าลายคว้าตัวเขาไปร่วมทีม ก่อนที่ความสำเร็จที่ตามมา ยากจะจินตนาการได้
ความสำเร็จกับ ยูเวนตุส
- แชมป์เซเรีย อา : 2 สมัย ฤดูกาล (1996/1997, 1997/1998)
- ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ : 1 สมัย (1996)
- อิตาเลีย ซูเปอร์ คัพ : 2 สมัย (1997)
แชมป์โลก 1998
ในปี 1998 ถือเป็นปีทองของเขา นอกจากจะคว้าแชมป์ลีกกับ ยูเวนตุส ซีดานยังพาทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกที่บ้านเกิดของตัวเอง นั่นทำให้ตัวเขาผงาดคว้ารางวัลบังลงดอร์ ในปีนั้นไปครองได้อีกด้วย
เรอัล มาดริด
ดูเหมือนชีวิตในการค้าแข้งของเขาจะอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด แต่ด้วยความทะเยอทะยาน ซีดาน ตัดสินใจหาความท้าทายใหม่ ๆ ด้วยการย้ายไปเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2001-2006 ก่อนจะกวาดแชมป์ไปครองมากมายร่วมกับ โรนัลโด้ R9 รวมถึงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รางวัลที่ตัวเขาเฝ้ารอ
ความสำเร็จกับ เรอัล มาดริด
- ลา ลีกา : 1 สมัย (2002/2003)
- ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : 1 สมัย (2001/2002)
- อินเตอร์เนชัลแนล คัพ : 1 สมัย (2002)
- ยูโรเปี้ยนส์ ซูเปอร์ คัพ : 1 สมัย (2002)
- สแปนิช ซูเปอร์ คัพ : 2 สมัย (2001, 2003)
บทส่งท้าย
ซีดาน คือผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง ที่เล่นฟุตบอลด้วยสมองอย่างแท้จริง ไม่จำเป็นต้องดุดันที่สุด ไม่จำเป็นต้องยิงแรงที่สุด แต่สิ่งที่ที่ทำให้เขานั้นแตกต่าง และกลายเป็นที่จดจำของแฟนบอลทั่วโลก คือความงดงามบนผืนหญ้า ที่แข้งนักเตะระดับโลกด้วยกันเองอย่าง พอล สโกลส์ ต่างก็ยังยกย่องชายผู้นี้