เว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีผู้เข้าใช้บริการมากที่สุดในโลก PAPERINDUSTRYMAG.COM เว็บพนันตรงไม่ผ่านเอเย่นต์อันดับ 1 ที่ผู้เล่นไว้วางใจมากที่สุด มีช่องทางการเข้าเล่นที่ชัดเจนเสถียรและสะดวกมากที่สุด หากสนใจสามารถทำการสมัครพร้อมรับโปรโมชั่นได้แล้ววันนี้ พร้อมความสนุกสนาน ดีต่อใจ เริ่มต้นการเดิมพันตั้งแต่ 1 บาท
และในช่วงเวลาความสนุกของการเดิมพันที่ท้าทายนี้ ยังสามารถร่วมความสนุกอื่น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งความสนุกอีกแบบที่ช่วยเพิ่มอรรถรสความมันส์ นั่นคือ การอ่านประวัติที่น่าตื่นเต้นของผู้นำที่มีชื่อว่า โจเซฟ สตาลิน บุรุษเหล็กแห่งสหภาพโซเวียต ผู้เคยทำให้ทั้งยุโรปหวาดกลัว เริ่มต้นหาความสนุกได้แล้วจากในบทความนี้ของเราได้เลยครับ
JOSEPH STALIN บุรุษเหล็กแห่งสหภาพโซเวียตเป็นใคร ?
อีโอซิฟ วิสซารีโอโนวิช สตาลิน หรือที่รู้จักกันในนาม โจเซฟ สตาลิน ซึ่งเขาเป็นผู้นำของโซเวียต ตั้งแต่ปี 1924 จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 1953 เขาได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการของพรรคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต
โจเซฟ สตาลิน ยังเป็นรัฐมนตรีแห่งสหภาพโซเวียตอีกด้วย โดยดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 1941 ถึงปี 1953 แม้ว่าช่วงแรก ๆ ผู้นำอย่างสตาลินจะปกครองประเทศร่วมกับกลุ่มผู้นำคอมมิวนิสต์คนอื่น แต่ในที่สุด สตาลินก็ได้รวมอำนาจทั้งหมดไว้ที่ตนเองอย่างเบ็ดเสร็จ
จนกระทั้งเขาได้กลายมาเป็นจอมเผด็จการ ผู้นำแห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งเขามีอุดมการณ์ของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่มุ่งมั่นจะให้ทั้งประเทศนับถือลัทธินี้เช่นเดียวกัน แม้ในขณะที่นโยบายคอมมิวนิสต์ของสตาลินดำเนินการ ประชาชนก็ได้เรียกลิทธินี้ว่า ลัทธิของสตาลิน
ประวัติความเป็นมาของ โจเซฟ สตาลิน แห่งสหภาพโซเวียต
โจเซฟ สตาลิน เกิดในครอบครัวที่ยากจน และเขาเกิดที่เมืองหนึ่งที่มีชื่อว่า กอรี ซึ่งได้ตั้งอยู่ในจักรวรรดิรัสเซีย สตาลินได้เข้าร่วมกับพรรคแรงงานหนึ่งที่เป็นสังคมนิยมประชาธิปไตยรัสเซีย และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาได้ทำการแก้ไขหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อว่า PRAVDA และสตาลินได้ระดมเงินทุนทั้งหมดที่มีให้กับกลุ่ม วลาดีมีร์
ซึ่งเงินทุนที่เขามีนั้น ส่วนใหญ่จะมาจากการโจรกรรม การลักพาตัว และจากค่าคุ้มครองนั่นเอง วีรกรรมเหล่านี้ที่ได้กล่าวมาทำให้เขาถูกจับกุมหลายครั้ง และเขายังถูกเนรเทศออกจากประเทศมาหลายครั้งเช่นกัน จนกระทั่งกลุ่มของ วาลาดีมีร์ ได้เข้ายึดอำนาจรัสเซียจากการปฏิวัติในครั้งนั้น
ทำให้ได้สร้างพรรคการเมืองแบบเดียวขึ้นมา ภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์ และเมื่อโจเซฟได้ทราบข่าวเขาจึงขอเข้าร่วมกับวาลาดีมีร์ทันที ในการปกครองช่วงนั้น เขาได้ทำการเข้าไปประจำการเป็นทหารในช่วงสงครามกลางเมืองของรัสเซีย ก่อนที่จะได้เข้าควบคุม จึงทำให้ถือกำเนิดสหภาพโซเวียต
และในปี 1922 สตาลินก็ได้ยึดอำนาจและขึ้นแท่นตำแหน่งผู้นำ จากนั้นภายหลังของการเสียชีวิต เลนิน ในปี 1924 โจเซฟ สตาลิน ก็ได้เริ่มต้นลัทธิสังคมนิยมประเทศเดียวขึ้นมา และนี่ก็จะกลายเป็นหลักการที่สำคัญของความเชื่อพรรค และผลลัพธ์จากแผน 5 ปี ที่ถูกดำเนินการภายใต้ผู้นำอย่าง โจเซฟ สตาลิน
ประเทศที่อยู่ภายใต้กรรมมือของเขาได้พัฒนา และรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรกรรมทั้งหมด ซึ่งก็ทำให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมยิ่งใหญ่อย่างรวดเร็ว และการสร้างเศรษฐกิจโดยการสั่งการแบบรวบอำนาจ สิ่งเหล่านี้เองที่จะนำไปสู่การหยุดชะงักของการผลิตอาหาร จนทำให้ประชาชนอดอยากอย่างรุนแรง
โดยมีผลกระทบที่ก่อให้เกิดข้าวยากหมากแพงในปี 1932 ไปจนถึง ปี 1933 และสตาลินยังได้จัดกลุ่มผู้ที่ทำการกวาดล้างเพิ่มขึ้นมา ซึ่งการกวาดล้างครั้งนี้ ได้มีผู้ถูกคุมขังในจำนวนที่มากกว่าหนึ่งล้านคน และยังมีผู้คนที่ถูกสั่งประหารชีวิตในจำนวนอย่างน้อย ๆ 700,000 คน ในระหว่างปี 1934 ไปจนถึง ปี 1939 และในปี 1937
ต่อมา สตาลินก็สามารถควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต และรัฐบาลรัสเซียได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขึ้นเป็นจอมเผด็จการที่ทางยุโรปและอเมริกาต่างก็หวั่นเกรง โดยทางกลุ่มของยุโรปและอเมริกา ต่างก็กล่าวกันว่า โจเซฟ สตาลิน มีความเป็นปีศาจร้ายภายในตัวมากกว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เสียอีก
ลัทธิสตาลินคอมมิวนิสต์ของ JOSEPH STALIN
ลัทธิสตาลิน หรือ สังคมนิยมในประเทศเดียว เป็นการประยุกต์ในทางปฏิบัติของหลักนิยม โดยสตาลินที่เป็นผู้มีอำนาจควบคุมพรรคคอมมิวนิสต์ และในส่วนของรัฐบาลในโซเวียตตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ สตาลินได้แสดงให้เห็นถึงชัยชนะของลัทธิคอมมิวนิสต์ นอกจากนั้น ยังจะดำเนินการได้ตามแนวทางของลัทธิเลนิน
และยังทำการยึดครองทางการทหารโดยมหาอำนาจคอมมิวนิสต์ แต่ว่ากันตามหลักจริง ๆ สตาลินมีการจำกัดตัวเองอยู่เฉพาะในการตีความลัทธิมากซ์และลัทธิเลนิน ซึ่งก็จะนำไปใช้กับสภาพแวดล้อมทั้งของภายในประเทศ และระหว่างประเทศในยุคของสตาลิน
ต่อมาพวกที่เข้ามารับช่วงอำนาจการเป็นผู้นำต่อจากสตาลิน ก็ได้ทำการรื้อโครงการของเลนินเสียสิ้นไปทั้งหมด และลัทธิสตาลินก็ได้ถูกประณามว่าเป็นลัทธิที่ส่งเสริมแนวการปกครองแบบเผด็จการ ซึ่งเป็นการปกครองโดยบุคคลคนเดียว และทำการกำจัดพวกที่ถูกระแวงว่าจะเป็นฝ่ายตรงกันข้าม โดยวิธีการกวาดล้างและใช้ตำรวจลับ
อีกทั้งยังมีการจองจำคุมขังพวกที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งหากนับจำนวนก็นับไม่ถ้วนใน ค่ายกูลัก ถึงแม้ว่าจะมีการประณามลัทธิสตาลิน แต่การประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอมมิวนิสต์ทั้งในแง่ทฤษฎีและในแง่ปฏิบัติ ก็ได้ดำเนินการกว่า 30 ปี ในช่วงการปกครองของสตาลิน ยังคงเป็นพื้นฐานของหลักนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์อยู่ในช่วงที่สหภาพโซเวียตยังไม่ล่มสลาย
แนวความคิดที่พัฒนาและนำไปใช้ในสหภาพโซเวียตโดย โจเซฟ สตาลิน
ความคิดการพัฒนาของผู้นำอย่าง โจเซฟ สตาลิน ได้คิดแนวทางการพัฒนา เพื่อนำเข้ามาใช้ในประเทศสหภาพโซเวียต แต่กลับมีผลกระทบต่อหลักความนิยมคอมมิวนิสต์อีกด้วย โดยมีดังนี้
- ผลกระทบแนวความคิดเรื่องสังคมนิยมในประเทศเดียว
- ผลกระทบต่อแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียต 5 ปี
- ผลกระทบต่อเกษตรแบบรวมศูนย์
- ผลกระทบต่อสหภาพโซเวียต
บทส่งท้าย
โจเซฟ สตาลิน ผู้นำจอมเผด็จการแห่งสหภาพโซเวียต ผู้ถูกกล่าวขานว่าน่ากลัวกว่าผู้นำพรรคนาซีอย่าง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เขาเป็นผู็สังหารประชาชนของตัวเอง ด้วยความคิดที่เขาคิดว่าทำถูกต้องแล้ว แต่อันที่จริง สิ่งที่สตาลินทำเป็นสิ่งที่เลวร้ายไม่แพ้กับฮิตเลอร์เลยทีเดียว นี่เป็นความรู้ดี ๆ ที่เราอยากแนะนำ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ FIFA WORLD CUP 2010 ฟุตบอลโลกที่น่าจดจำที่สุด