อดีตดาวเตะระดับตำนานที่แฟนบอลของ ทีมชาติอังกฤษ และ เชลซี ไม่มีทางลืมเลือน แฟรงก์ แลมพาร์ด สุดยอดกองกลางหัวใจสิงห์ ที่ยิงประตูบนเวทีพรีเมียร์ลีกเกินกว่า 200 ตุง หลังจากอ่านประวัติจบแล้ว สามารถเล่นเกม สล็อตฝากถอน TRUE WALLET เว็บตรง ได้ทันที สมัครฟรีไม่มีขั้นต่ำ
แฟรงก์ แลมพาร์ด หนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของโลก
แฟรงค์ แลมพาร์ด เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 1978 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเขาเป็นลูกชายของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ เป็นหลานของ แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ กุนซือดัง แถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ เจมี่ เร้ดแนปป์ อดีตกองกลางตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล
แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ เป็นผู้ช่วยโค้ชของแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทำให้แลมพาร์ดมีโอกาสเข้าร่วมกับทีมเยาวชนของทัพขุนค้อนในปี 1993 ก่อนจะได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1995 แต่ไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าไรนัก จนต้องย้ายไปค้าแข้งกับสวอนซี ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัว
ดาวรุ่งอนาคตไกล สู่แกนหลักที่เชลซีจะขาดไม่ได้
- หลังกลับมาจากการยืมตัว แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็พัฒนาฝีเท้าอย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นกำลังหลักของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในปี 1997 แถมผลงานยังเป็นไปอย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่การที่แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ผู้เป็นพ่อและแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ผู้เป็นลุง ถูกไล่ออกจากทัพขุนค้อน ทำให้เริ่มคิดถึงการอำลาทีม
- แลมพาร์ดตัดสินใจย้ายจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปค้าแข้งให้กับ เชลซี ด้วยค่าตัวสูงถึง 11 ล้านปอนด์ในปี 2001 แม้จะสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ทันที แต่เขาก็หนีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่พ้น เพราะมีรูปร่างที่ค่อนข้างอวบอั๋น แถมนี่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาไม่ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ด้วย
- ความผิดหวังที่ไม่มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปลงเล่นในฟุตบอลโลก 2002 ทำให้แลมพาร์ดมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้น เขาตั้งใจลดน้ำหนัก และพยายามฝึกซ้อมให้หนัก จนก้าวไปยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติอังกฤษได้สำเร็จ จนได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วทุกสารทิศ
- จุดเปลี่ยนสำคัญของแลมพาร์ดเกิดขึ้นในปี 2005 หลังเชลซีแต่งตั้ง โจเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ เขาปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นของแลมพาร์ดให้มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากขึ้น ส่งผลให้นักเตะยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ พร้อมพาต้นสังกัดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
- แฟรงค์ แลมพาร์ดพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก 1 สมัย แถมยังเป็นเจ้าของสถิติกองกลางที่ทำประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกที่จำนวน 200 ประตู
บทส่งท้าย
แลมพาร์ดย้ายออกจากเชลซีไปค้าแข้งกับนิวยอร์ค ซิตี้ในปี 2014 แต่ก็ถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยืมตัวมาใช้งาน ก่อนจะกลับไปลงเล่นกับต้นสังกัดที่แท้จริงอีก 1 ปี และประกาศยุติเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในปี 2016 นับเป็นการปิดฉากเส้นทางการค้าแข้งอันยาวนานกว่า 23 ปีลงอย่างเป็นทางการ
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล แลมพาร์ดก็เริ่มต้นเส้นทางการเป็นกุนซือทันที ซึ่งเขามีโอกาสคุมดาร์บี้ เคาท์ตี้ในปี 2018 ก่อนจะกลับมาคุมเชลซีในปีถัดมา แต่ผลงานของเขาไม่ดีเท่าไรนัก ทำให้ถูกปลดออกจากตำแหน่งในปี 2021 และเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้คุมเอฟเวอร์ตันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา