แข้งที่ถูกจดจำจากการมีใบหน้าที่ไม่เหมือนกับนักเตะทั่ว ๆ ไป แผลเป็นใหญ่ที่บากอยู่บนหน้า ถูกตัดสินว่าเขาแปลกแยกตั้งแต่ตอนเด็ก การโดนบูลลี่เพราะมีสภาพร่างกายที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ ทำให้เขาต้องหาอะไรบางอย่างเพื่อมาลบจุดด้อยตรงนี้
ถึงอย่างไรเมื่อรู้จักกับฟุตบอล จากสายตาที่ดูถูกเหยียดยาม กลายเป็นการยอมรับ ตอบโต้ด้วยปากอาจจะไม่ใช่วิธีที่ที่ดีนัก ฟร็องก์ รีเบรี่ จึงตอบโต้ด้วยผลงานด้านฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลต่างชื่นชมในฐานะแนวรุกที่ฝีเท้าเด็ดขาดทุกรูปแบบ
ฟร็องก์ รีเบรี่ แผลเป็นทั้งกายและใจ
ฟร็องก์ อองรี ปิแอร์ รีเบรี่ เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 1983 ที่ประเทศฝรั่งเศส หนุ่มน้อยเกิดมาเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป ทว่าในวัย 2 ขวบเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเขาต้องเปลี่ยนไปตลอดชีวิต เพราะเจ้าตัวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ใบหน้ากว่า 100 เข็ม
นั่นจึงทำให้ตัวเขากลายเป็นเด็กที่มีแผลเป็นรอยบากบนใบหน้า การแพทย์ในสมัยนั้นไม่สามารถลบรอยแผล ทั้งทางกายและทางใจของเขาได้ จนทำให้ตัวเขาถูกล้อเลียนอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นแผลขนาดใหญ่ที่ทำให้ตัวเขาแตกต่างจากเด็กคนอื่น ๆ รวมถึงฐานะที่ยากจน และยังนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับมากนักในสมัยนั้น
ฟุตบอลคืนชีวิต
อย่างที่ได้บอกไป ก่อนหน้าที่เขาจะประสบอุบัติเหตุ รีเบรี่ เหมือนกับเด็กทั่ว ๆ ไป ร่าเริงตามวัย ทว่าหลังจากเหตุการณ์ฝังใจครั้งนั้น ทำให้เขากลายเป็นคนเก็บตัวเงียบ ไม่มั่นใจในตัวเอง จนสุดท้ายเมื่อโตขึ้นในวัย 6 ขวบ เขาเปลี่ยนแปลงความคิด กล้าจะเผชิญหน้ากับความกลัว โดยทางออกคือฟุตบอล
ฟร็องก์ รีเบรี่ จากถิ่นเกิดสู่ลีกอาชีพ
รีเบรี่ เริ่มเล่นฟุตบอลกับ บูโลญ สโมสรเล็ก ๆ ละแวกบ้านของเขา แต่พรสวรรค์ บวกกับความพยายามทำให้ตัวเขาติดทัพทีมชุดใหญ่ในลีกของประเทศฝรั่งเศสหลายทีม ไม่ว่าจะเป็น อาแล็ส, เบรสต์ และ เอฟซี เม็ตซ์ แม้จะเก่งกาจแค่ไหน แต่โอกาสมันไม่ได้เรียกหาเขาแบบง่าย ๆ กลับส่งบททดสอบแรกที่ทำให้จิตใจแข็งแกร่งขึ้น
ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก
เมื่อผลงานกับทีมในลีกเอิงไม่ดีนัก เจ้าตัวตัดสินใจออกจากเซฟโซน และโยกไปค้าแข้งในลีกตุรกีกับ กาลาตาซาราย แต่สุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ จนต้องกลับมาเล่นในลีกบ้านเกิด กับ โอลิมปิก มาร์กเซย์ ครั้งนี้เองที่เหมือนเป็นการเดินถอยหลังหนึ่งก้าว เพื่อทะยานไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง
2 ฤดูกาลกับ โอเอ็ม รีเบรี่ ระเบิดฟอร์มเทพ พาทีมเข้าชิงฟุตบอลถ้วยภายในประเทศถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นในระดับยุโรป แถมถูกเรียกติดทีมชาติ จากการล้มเหลวในฝรั่งเศส รวมถึงการออกไปเล่นต่างประเทศ รอบนี้ตัวเขาไม่กลัวอีกแล้ว ในการเลือกเดินเส้นทางใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม
ตำนานเสือใต้ ฟร็องก์ รีเบรี่
ไม่มีใครคาดคิดว่าการตัดสินใจย้ายไปเล่นที่บุนเดสลีกา ในฤดูกาล 2008 จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของทั้ง บาเยิร์น มิวนิค ที่ทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสร 25 ล้านยูโร คว้าแข้งชาวน้ำหอมเข้ามา เพราะหลังจากนั้น ฟร็องก์ รีเบรี่ ตอบแทนเงินทุกยูโรด้วยผลงานที่สุดยอดทุกฤดูกาล
และเมื่อคู่หูระดับตำนานอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน ย้ายเข้ามา เหมือนเป็นการอัพเลเวลให้ตัวเขาฉายฟอร์มโหดเพิ่มขึ้นไปอีก ไม่มีอะไรมาหยุดทั้ง 2 คนได้ รีเบรี่ ทางซ้าย ร็อบเบน ทางขวา นี่คือคู่หูที่ดีที่สุด ณ ชั่วโมงนั้นในโลกฟุตบอลที่แม้แต่ ยาป สตัม ก็มิอาจหยุดปีกคู่นี้ได้
ความสำเร็จกับ บาเยิร์น มิวนิค
- บุนเดสลีกา 9 สมัย
- เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย
- แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย
- ซุปปอร์ คัพ 1 สมัย
- สโมสรโลก 1 สมัย
ฟร็องก์ รีเบรี่ ปิดฉาก 12 ปี กับบาเยิร์นฯ
หากถามแฟนบอลบาเยิร์น มิวนิคในยุค 10 – 20 ปีที่ผ่านมา ว่าไอดอลของพวกเขาเป็นใคร หลายคนต้องขานชื่อ ฟร็องก์ รีเบรี่ นี่คือนักเตะที่กลายเป็นตำนานของทีมกับ 12 ปีเต็มในการทุ่มเทเพื่อสโมสร ทั้งแชมป์ทุกรายการที่มอบให้ ประตูที่มากมายร่วมกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ภาพความทรงจำดี ๆ ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่เขาไม่เป็นมืออาชีพ
หลังจากหันหลังให้เสือใต้ เจ้าตัวย้ายไปเล่นที่ลีกอิตาลีกับฟิออเรนติน่า และปัจจุบันกับซาร์แลนิตาน่า และคาดว่าเวลาของเขากับฟุตบอลใกล้จะถึงจุดอวสานแล้ว
บทส่งท้าย
เรื่องราวของ ฟร็องก์ รีเบรี่ สอนให้ทุกคนมองโลกในแง่บวก แม้จะประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ 2 ขวบ มีใบหน้ารอยบากขนาดใหญ่ แต่ตัวเขากลับมองข้ามสิ่งนั้น และสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาแทน และแม้จะล้มเหลวกี่ครั้ง แต่หากมีหัวใจเป็นนักสู้ สักวันหนึ่งจะเป็นวันของคุณ