นักเตะที่ถนัดเท้าซ้าย แต่แจ้งเกิดและถูกจดจำในตำแหน่งปีกขวา แนวรุกที่มีความเร็วเป็นจุดขาย แต่ในขณะเดียวกัน เท้าซ้ายของเขาถือว่าเป็นเครื่องจักรสังหาร ที่ถูกจดจำว่ามีประสิทธิภาพทำลายล้างสูงแบบสุด ๆ
การได้อยู่กับ 3 ทีมยักษ์ใหญ่ของ 3 ประเทศ ถือว่าเป็นที่จดจำของแฟนบอลในทุก ๆ ทีมที่เขาไปเยือน ด้วยสไตล์การเล่นเกมรุกที่เร้าใจ แม้จะเป็นปีก แต่จำนวนประตูในอาชีพการค้าแข้ง 209 ประตู การันตีได้ว่าเขาคือยอดแข้งอีกคนหนึ่ง
ศาสตร์ฟุตบอลที่เกิดมาเพื่อเขา
อาร์เยิน ร็อบเบน เกิดเมื่อ 23 มกราคม 1984 ในเมืองเบดุม โกรนิงเก้น ประเทศฮอลแลนด์ ในวัยเด็กตัวเขาหลงรักฟุตบอล แต่ที่แตกต่างคือการฝึกไม่ใช่แค่การลงสนาม แต่เป็นการเรียนรู้ศาสตร์ฟุตบอลจากห้องเรียนที่มี วีเอล โคเออร์เวอร์ โค้ชฟุตบอลชื่อดังเป็นคิดค้นวิธีการเล่นนี้
โดยหลักสูตรนี้เกิดมาเพื่อร็อบเบนจริง ๆ เพราะเป็นการสอนที่เน้นไปถึงความสามารถเฉพาะตัว เพื่อดึงพรสวรรค์ที่อยู่ในนักเตะคนนั้น ๆ ออกมาให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังสอนการควบคุมลูกบอลให้อยู่ในสองเท้าให้เหนียวแน่น ยากที่คู่ต่อสู้จะแย่งไป ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าร็อบเบนสอบผ่าน และโดดเด่นเหลือเกินกับหลักสูตรนี้
เจิดจรัสในลีกดัตช์
ชื่อเสียงของร็อบเบน ถือว่าอยู่ในระดับท็อปของแข้งดาวรุ่งในยุคนั้น เนื่องจากนักเตะที่ถนัดเท้าซ้าย และมีความเร็ว บวกกับการจบสกอร์ที่เฉียบขาด ในอายุที่เท่ากัน นี่คือเพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลฮอลแลนด์ และสุดท้ายเป็น เอฟซี โกรนิงเก้น คือสโมสรแรกที่ตัดสายสะดือให้เขา
ยอดดาวรุ่ง สู่ทีมชุดใหญ่
หลังจากเข้าร่วมทีม และลงเล่นในชุดเยาวชนระดับซี แต่โดดเด่นกับผลงาน 50 ประตู ในฤดูกาลเดียว จนทำให้ โกรนิงเก้น ดันเขาขึ้นทีมชุดใหญ่ทันที และหลังจากนั้นไม่มีอะไรมาหยุดเขาได้ สเต็ปฟุตบอลที่สวยงาม แต่แฝงไปด้วยคุณภาพ แข็งแกร่ง รวดเร็ว
แวะ พีเอสวี ก่อนท่องโลกกว้าง
จริง ๆ แล้วที่โกรนิงเก้น ได้รับการติดต่อจากยอดทีมหลายสโมสรในลีกยุโรป แต่การเดินเกมของเอเยนต์ รวมถึงตัวนักเตะมองว่ายังเร็วไป กับกระดูกฟุตบอลที่ไม่แกร่งมากนัก จึงตัดสินใจย้ายร่วมทัพยักษ์ใหญ่แห่งลีกฮอลแลนด์อย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
ในวัย 18 ปี ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะอายุของเขายังน้อย ทว่าระดับฟุตบอลกลับแกร่งเกินอายุ เพราะฤดูกาลแรกกลายเป็นแข้งชุดหลักของทีม ยิงไป 12 ประตู และพาสโมสรผงาดคว้าแชมป์ลีกฮอลแลนด์ สมัยที่ 17 ทว่าฤดูกาลถัดมาอาการบาดเจ็บเล่นงานตัวเขาบ่อยครั้ง แต่นั่นก็ไม่ทำให้บิ๊กทีมยุโรปเลิกสนใจเขา
การต่อสู้เพื่อแย่งตัว ร็อบเบน
แม้ฤดูกาลที่ 2 จะไม่ค่อยสวยหรูนักกับ พีเอสวี แต่มีข้อเสนอที่เย้ายวนให้สโมสรปล่อยตัวเขา เพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอจำนวน 7 ล้านปอนด์ แถม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของทีมเชิญแข้งวัย 20 ปี เข้าไปพูดคุยถึงสโมสร
แต่ด้วยจำนวนเงินที่น้อยเกินไป ปีศาจแดง โดนปฏิเสธ ด้าน เรอัล มาดริด ที่กำลังจะจีบกลับโดน เชลซี อีกหนึ่งทีมใหญ่ของเกาะอังกฤษ ปาดหน้าไปด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ และสุดท้าย ร็อบเบน ได้กลายเป็นแข้งของสิงห์บลู
จากอังกฤษ สู่สเปน และตำนานที่เยอรมัน
ร็อบเบน ค้าแข้งกับเชลซี 3 ฤดูกาล จริงอยู่ที่ตัวเขาได้แชมป์ลีก 2 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย ลีกคัพ 2 สมัยกับทีม แต่ถือว่าฟอร์มโดยรวมไม่ได้ฮอตฮิตมากนัก สุดท้ายเป็น เรอัล มาดริด ที่กระชากตัวเขาไปร่วมทีมด้วยจำนวนเงิน 24 ล้านปอนด์ ทว่าลงเล่นไปเพียงแค่ 2 ฤดูกาล กับแชมป์ลีก 1 สมัย ก็ต้องออกเดินทางอีกครั้ง
เสือใต้เดินพันตำนาน
20 ล้านปอนด์ เป็นค่าตัวที่ บาเยิร์น มิวนิค คว้าร็อบเบนมาร่วมทัพเพื่อเล่นคู๋กับ ฟร็องก์ รีเบรี่ จนกลายเป็นคู่หูมหากาฬแห่งยุค และนั่นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะตลอด 10 ปีของเขากับทีม กลายเป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่
ความสำเร็จกับ บาเยิร์น มิวนิค
- บุนเดสลีกา 8 สมัย
- เดเอฟเบ โพคาล 5 สมัย
- แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย
- ซุปปอร์ คัพ 1 สมัย
บทส่งท้าย
น้อยคนนักที่จะเกิดมาถนัดเพียงแค่เท้าเดียว คู่ต่อสู้รู้ทั้งรู้ แต่ไม่สามารถหาทางเอาชนะเขาได้ ร็อบเบนคือนักเตะที่ทำเรื่องยาก ๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่ายเมื่อฟุตบอลอยู่ในเท้าของเขา ความสวยงามของฟุตบอลกับชายคนนี้กลายเป็นความทรงจำในใจของแฟนบอลตราบนานเท่านาน